รูปแบบเจดีย์จากแรกมี ณ ดินแดนสุวรรณภูมิ
รูปทรงสถูป ศิลปอินเดียสมัยโบราณ
การสร้างสถูปเป็นพุทธเจดีย์นั้น เป็นที่แพร่หลายในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง ถึงได้อุทิศพระองค์เป็นอุบาสก แล้วเสด็จออกผนวชเป็นพระภิกษุอยู่คราวหนึ่ง พระองค์ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเมื่อพระองค์ได้เสด็จจาริกแสวงบุญไปในที่ต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าหรือพุทธสาวกที่สำคัญ เช่น สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และปรินิพพาน พร้อมกับทรงสร้างสถูปและเสาอโศกประดิษฐานไว้ยังสถานที่นั้นๆ เพื่อเป็นที่สักการบูชาของคนในท้องถิ่น และเป็นเครื่องชี้ให้คนรุ่นหลังได้รู้ว่า สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นอกจากนี้ พระองค์ยังได้แจกพระบรมธาตุไปประดิษฐานไว้ในประเทศต่างๆ และประสงค์จะให้สร้างสถูป (หรือเจดีย์) บรรจุอัฐิธาตุของพระสังฆเถระ เป็นบริวารของมหาสถูปทั่วชมพูทวีป เป็นจำนวน 84,000 องค์ด้วย
ลักษณะพระสถูปที่สร้างเมื่อครั้งพระเจ้าอโศกนั้น มักทำตัวสถูปกลม รูปทรงเหมือนขันน้ำหรือโอคว่ำข้างบนทำเป็นพุทธอาสน์สี่เหลี่ยมตั้งไว้และมีฉัตรปักบนนั้นเป็นยอด ใต้ตัวสถูปทำเป็นฐานรอง รอบฐานทำเป็นที่สำหรับเดินประทักษิณ แล้วมีรั้วล้อมรอบ (สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ, 2469: 37-38) ดังพระสถูปสาญจี ศิลา ที่ยังคงเหลือเป็นหลักฐานมาถึงยุคปัจจุบันนี้
ลักษณะพระสถูปที่สร้างเมื่อครั้งพระเจ้าอโศกนั้น มักทำตัวสถูปกลม รูปทรงเหมือนขันน้ำหรือโอคว่ำข้างบนทำเป็นพุทธอาสน์สี่เหลี่ยมตั้งไว้และมีฉัตรปักบนนั้นเป็นยอด ใต้ตัวสถูปทำเป็นฐานรอง รอบฐานทำเป็นที่สำหรับเดินประทักษิณ แล้วมีรั้วล้อมรอบ (สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ, 2469: 37-38) ดังพระสถูปสาญจี ศิลา ที่ยังคงเหลือเป็นหลักฐานมาถึงยุคปัจจุบันนี้
พระสถูปที่สาญจี ศิลปอินเดียสมัยโบราณ พุทธศตวรรษที่ 5 ที่มาภาพ: https://goo.gl/tZpLPm |
รูปทรง สัณฐาน ของสถูปอินเดียโบราณ ที่มาภาพ: https://goo.gl/l8Pd9J |
มหาสถูป" ที่สาญจี
มหาสถูป สาญจี ปัจจุบันอยู่ในรัฐมัธยมประเทศของอินเดีย ที่นี่เป็นดินแดนแห่งสถูป (เจดีย์)วัด วิหาร และเสาศิลาจารึก สันนิษฐานว่าเริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 250 แต่เดิมเป็นเจดีย์ที่สร้างด้วยดิน และได้มีการบูรณะเพิ่มเติมในสมัยราชวงศ์ศุงคะ หรือประมาณพุทธศตวรรษที่ 3-4 ถูกค้นพบโดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษ ซึ่งได้พบสถูปองค์ ที่ 1, 2,3 พร้อมกุฏีที่พักสงฆ์เป็นจำนวนมาก แต่สถูปได้ถูกทำลายเป็นส่วนมาก โดยพวกนักล่าสมบัติ
พระเจ้าอโศกมหาราชทรงสร้างมหาสถูปสาญจีขึ้น ในสมัยที่เป็นอุปราชปกครองกรุงอุชเชนี ด้วยพระประสงค์สำคัญ 4 อย่างคือ
1. เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
2. เพื่อบรรจุพระธาตุของพระอัครสาวก พระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ รวมทั้งพระธาตุของพระสมณทูตอีก 10 รูป ที่ทรงส่งไปประกาศพระศาสนาภายหลังการสังคายนาครั้งที่ 3
3. เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระโอรส “มหินทระเถระ” และพระธิดา “พระสังฆมิตตาเถรี”
4. เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระมเหสีพระนามว่า พระนางเวทิสา ผู้มีถิ่นกำเนิดที่สาญจี แห่งนี้
ปัจจุบันสถูปเจดีย์สาญจีอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ มีลักษณะเป็นรูปกลม “ทรงโอคว่ำ“ ถือเป็นรูปแบบที่เก่าแก่ที่สุด มีความสูง 16 เมตร กว้าง 37 เมตร มีประตูทางเข้าทั้งสี่ทิศ มียอดฉัตรสามชั้น พร้อมกำแพงหินสลักภาพพุทธประวัติที่งดงามยิ่งนัก รวมถึงภาพพระพุทธเจ้าในอดีต และภาพสัตว์ต่างๆ ที่สื่อความสำคัญทางพระพุทธศาสนา
นอกจากนี้ ในสมัยพระเจ้าอโศก ภายหลังการเดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระเถระยังดินแดนสุวรรณภูมิ ส่งผลให้สถูปเจดีย์จากอินเดีย ได้ส่งอิทธิพลต่อการสร้างเจดีย์ในประเทศไทยในกาลต่อมาอีกหลายแห่ง อาทิ พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร, พระประโทณเจดีย์ วัดพระประโทณเจดีย์วรวิหาร, เนินวัดพระงาม ตั้งอยู่ในวัดพระงาม จังหวัดนครปฐม เป็นต้น (พระมหาสมจินต์ สมมาปญโญ (2547) http://goo.gl/KbOhUP)
ประวัติองค์พระปฐมเจดีย์
พระปฐมเจดีย์ ถือว่าเป็นเจดีย์องค์แรกที่สร้างขึ้นในประเทศไทย ประมาณ พ.ศ. ๓๐๐ สมัยที่พระเจ้าอโศกมหาราชทรงส่งสมณทูตไปประกาศพระพุทธศาสนาในประเทศต่าง ๆ พระโสณะ พระอุตตระ และคณะได้เดินทางมาประกาศพระพุทธศาสนาที่ดินแดนสุวรรณภูมิ องค์เจดีย์ที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันไม่ใช่องค์เดิม แต่เป็นเจดีย์ที่ก่อขึ้นมาใหม่หุ้มองค์เดิมไว้
พระปฐมเจดีย์องค์เดิมมีลักษณะเหมือนเจดีย์ที่สาญจิ ประเทศอินเดีย กล่าวคือ องค์เจดีย์เป็นรูปกลม เหมือนโอหรือขันน้ำคว่ำ ข้างบนทำเป็นพุทธอาสน์สี่เหลี่ยมตั้งไว้ มีฉัตรปักเป็นยอด ฐานเจดีย์ทำเป็นสี่เหลี่ยม รอบฐานทำเป็นที่เดินประทักษิณ อีกประการ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชวินิจฉัยว่า พระธมเจดีย์องค์นี้อาจเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเมื่อคราวที่พระสมณทูตในพระเจ้าอโศกมหาราชเดินทางมาเผยแผ่ศาสนายังสุวรรณภูมิก็เป็นได้ เพราะพระเจดีย์เดิมมีลักษณะทรงโอคว่ำหรือทรงมะนาวผ่าซีกแบบเดียวกับพระสถูปสาญจี แต่ปรากฏว่ามียอดเป็นแบบปรางค์ ซึ่งพระองค์ฯ มีพระราชวินิจฉัยว่า อาจมีเจ้านายพระองค์ใดมาบูรณะไว้ก็เป็นได้ (วิกิพีเดีย. https://goo.gl/zDT5of)
ที่มาภาพ: https://goo.gl/Bwq6Tx |
รูปแบบพระปฐมเจดีย์ องค์เดิม ที่มา: https://goo.gl/nPu22b |
พระปฐมเจดีย์องค์เดิมมีขนาดความสูง ๑๙ วา ๒ ศอก (หรือ ๓๙ เมตร) ถูกทิ้งให้รกร้างไม่มีใครดูแลอยู่ระยะหนึ่ง สมัยที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะทรงผนวชอยู่ เสด็จฯไปนมัสการพระปฐมเจดีย์หลายครั้ง ทรงเห็นว่าเป็นเจดีย์องค์ใหญ่ เมื่อขึ้นครองราชย์ จึงได้โปรดฯให้ก่อเจดีย์แบบลังกาครอบเจดีย์องค์เดิมไว้เมื่อ พ.ศ.๒๓๙๖ มีขนาดความสูง ๑๒๐ เมตร ๔๕ เซนติเมตร
ดังนั้น ลักษณะองค์เจดีย์ในปัจจุบัน ทรงพระปรางค์ ปากผาย โครงสร้างเป็นไม้ซุง รัดด้วยโซ่เส้นใหญ่ก่ออิฐถือปูน ประดับด้วยกระเบื้องปูทับ ขนาดความสูงจากพื้น ๑๒๐ เมตร ๔๕ เซนติเมตร มีพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ประดิษฐานโดยรอบ ๘๐ องค์ ประกอบด้วยพระวิหาร ๔ ทิศ กำแพงแก้ว ๒ ชั้น
พระปฐมเจดีย์ องค์ปัจจุบัน จ.นครปฐม ที่มาภาพ: https://goo.gl/HvnxFd |
เจดีย์แบบปรางค์
ระยะเวลากว่าพันปีมาแล้ว ที่ดินแดนไทยรวมทั้งดินแดนใกล้เคียงในภูมิภาคแถบนี้ ได้เข้าสู่วัฒนธรรมศาสนาภายใต้ระบบกษัตริย์ ซึ่งแผ่ขยายจากประเทศอินเดียโบราณ ทำให้แบบแผนด้านงานช่างหรือที่เรียกว่า "ศิลปกรรม" อันเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่ง ในการเผยแผ่คติความเชื่อและการศรัทธาในศาสนา ได้ก้าวผ่านพัฒนาการมาเป็นลำดับ จนมีลักษณะเฉพาะเป็นลำดับยุคสมัยของดินแดนเหล่านั้น ซึ่งการติดต่อไปมาหาสู่กัน ทำให้เกิดการถ่ายรับแรงบันดาลใจด้านรูปแบบ และคติความเชื่อระหว่างดินแดนทั้งใกล้และไกลอีกด้วย จึงมีรูปแบบเจดีย์ทรงอื่นๆ มีการปรับปรุงอยู่ในดินแดนต่างๆ ที่นับถือพระพุทธศาสนา (สารานุกรมสำหรับเยาวชน, http://goo.gl/WSK4GR)
เจดีย์อีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า “ปรางค์” มีแบบอย่างมาจากปราสาท(เรือนหลายชั้น) ปราสาทนี้เดิมทีเดียวสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่ของคนมั่งมี สร้างด้วยไม้ ต่อมามีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแบบการสร้างปราสาท นิยมสร้างอิฐและศิลาเกิดเป็นพระปรางค์ นิยมสร้างกันทั้งในกลุ่มคนที่นับถือพระพุทธศาสนาและศาสนาพราหมณ์(ฮินดู) สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปหรือเทวรูป ถ้าเป็นพระปรางค์ในพระพุทธศาสนา ยอดทำเป็นสถูป แต่ถ้าเป็นปรางค์ในศาสนาพราหมณ์ ยอดทำเป็นตรีศูล (๓ สามแฉก) หรือนพศูล(๙ แฉก)
ระยะเวลากว่าพันปีมาแล้ว ที่ดินแดนไทยรวมทั้งดินแดนใกล้เคียงในภูมิภาคแถบนี้ ได้เข้าสู่วัฒนธรรมศาสนาภายใต้ระบบกษัตริย์ ซึ่งแผ่ขยายจากประเทศอินเดียโบราณ ทำให้แบบแผนด้านงานช่างหรือที่เรียกว่า "ศิลปกรรม" อันเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่ง ในการเผยแผ่คติความเชื่อและการศรัทธาในศาสนา ได้ก้าวผ่านพัฒนาการมาเป็นลำดับ จนมีลักษณะเฉพาะเป็นลำดับยุคสมัยของดินแดนเหล่านั้น ซึ่งการติดต่อไปมาหาสู่กัน ทำให้เกิดการถ่ายรับแรงบันดาลใจด้านรูปแบบ และคติความเชื่อระหว่างดินแดนทั้งใกล้และไกลอีกด้วย จึงมีรูปแบบเจดีย์ทรงอื่นๆ มีการปรับปรุงอยู่ในดินแดนต่างๆ ที่นับถือพระพุทธศาสนา (สารานุกรมสำหรับเยาวชน, http://goo.gl/WSK4GR)
เจดีย์อีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า “ปรางค์” มีแบบอย่างมาจากปราสาท(เรือนหลายชั้น) ปราสาทนี้เดิมทีเดียวสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่ของคนมั่งมี สร้างด้วยไม้ ต่อมามีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแบบการสร้างปราสาท นิยมสร้างอิฐและศิลาเกิดเป็นพระปรางค์ นิยมสร้างกันทั้งในกลุ่มคนที่นับถือพระพุทธศาสนาและศาสนาพราหมณ์(ฮินดู) สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปหรือเทวรูป ถ้าเป็นพระปรางค์ในพระพุทธศาสนา ยอดทำเป็นสถูป แต่ถ้าเป็นปรางค์ในศาสนาพราหมณ์ ยอดทำเป็นตรีศูล (๓ สามแฉก) หรือนพศูล(๙ แฉก)
พระปรางค์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ที่มาภาพ: https://goo.gl/LtKqoo |
พระปรางค์วัดศรีสวาย (สามองค์) ที่มาภาพ: https://goo.gl/TqsoC7 |
พระปรางค์ของไทยโดยทั่วไปมีลักษณะรูปทรงคลี่คลายมาจากอิทธิพลแบบอย่างสถาปัตยกรรมสิขร ของขอมและอินเดียผสมผสานกัน แต่มิได้ลอกเลียนแบบมาโดยตรง พุทธปรางค์ในสมัยสุโขทัยแม้จะมีอยู่เพียงไม่กี่องค์ก็ตาม แต่ก็มีปัญหาถกเถียงกันในหมู่นักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ศิลปะ ส่วนใหญ่มีความเห็นว่า ปรางค์ต่างๆ เป็นปรางค์ที่ขอมสร้างไว้เมื่อครั้งยังมีอำนาจในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและเลยขึ้นไปถึงลำน้ำยม ต่อมาเมื่อไทยมีอำนาจมากขึ้น ได้ดัดแปลงแต่งเติมเพิ่มขึ้นภายหลัง จึงปรากฏรูปแบบศิลปะของฝีมือช่างไทย คือรูปทรงสูงชลูด พุทธปรางค์เท่าที่ปรากฏอยู่มี พระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พระปรางค์วัดเจ้าจันทน์ ในอำเภอศรีสัชนาลัย พระปรางค์วัดศรีสวาย (สามองค์) พระปรางค์วัดพระพายหลวง (สามองค์) และศาลผาตาแดง(ยอดพังลงหมดแล้ว)ในอำเภอเมืองสุโขทัย (Ramkhamhaeng University.ศิลปกรรมสัมยสุโขทัย http://goo.gl/6ckzhl
เจดีย์ประธานทรงระฆัง ที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มาภาพ: https://goo.gl/u56EYI |
เจดีย์ที่พบในประเทศไทย มีทั้งแบบเจดีย์ประธานยอดดอกบัวตูม ที่วัดพระศรีมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย เจดีย์ประธานทรงระฆัง ที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน เจดีย์ทรงระฆังแบบทรงเครื่อง เจดีย์ทรงเครื่องวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง เจดีย์วัดสามพิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เจดีย์ทรงปราสาทแบบหริภุญชัย ที่วัดกู่กุด จังหวัดลำพูน ที่มาภาพ: https://goo.gl/PMZB1z |
พระปรางค์วัดอรุณราชวราราม ที่มาภาพ: https://goo.gl/xY2OXp |
เราจะเห็นว่าในพระพุทธศาสนา ปรากฎรูปแบบของพุทธเจดีย์หลายหลาก แต่ทุกรูปแบบนั้นเหตุที่สร้างขึ้นมีเหมือนกันในทุกๆ ภูมิภาค (เกษมสุข ภมรสถิตย์, 2558: 42) คือ
1. สร้างเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนา
2. สร้างเป็นตัวแทนของพระพุทธองค์
3. สร้างเพื่อสักการะเคารพบูชา
เรียบเรียงโดย: มะลิ สไมล์ ,นักวิชาการอิสระ
อ้างอิงข้อมูล:
1.สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ.ตำนานพระพุทธเจดีย์.2469.
2.ศาสตราจารย์ ดร. สันติ เล็กสุขุม.เจดีย์ ความเป็นมาและคำศัพท์เรียกองค์ประกอบเจดีย์ในประเทศไทย.พิมพ์ครั้ง ที่ 5,2552.
3.พระมหาสมจินต์ สมฺมาปญฺโญ "เจดีย์ในพระพุทธศาสนา" (2547) http://goo.gl/KbOhUP.
สาธุๆๆค่ะ
ตอบลบดีมากๆคะ ได้รับข้อมูลเท็จจริงคะ
ตอบลบเป็นบทความให้คงามรู้ที่ดี และเป็นประโยชน์ต่อชาวพุทธมากค่ะ
ลบเขียนดีมากคะ
ตอบลบเห็นด้วยๆ
ลบความจริงที่ควรมองให้ถูกมุม
ตอบลบความจริงที่ควรมองให้ถูกมุม
ตอบลบชัดเจนมาก ขออนุโมทนา
ตอบลบสาธุ
ตอบลบสาธุ
ตอบลบขอบคุณข้อมูลดีดี ประโยชน์ ถูกต้อง
ตอบลบเข้าใจง่ายหายสงสัย
ตอบลบสาธุ เจดีย์แต่ระที่จะเป็นที่ระลึกนึกถึงความดีของบรรพรุษที่ทำมาทั้งนั้นค่ะ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบชอบมากๆครับ
ตอบลบเป็นควาทศรัทธายิ่งของชาวพุทธ
ตอบลบเข้าใจแจ่งแจ้งดีครับ
ตอบลบอนุโมทนาบุญครับ
ตอบลบเขียนได้ดีมาก
ตอบลบชัดเจนมากๆครับ
ตอบลบสุดยอดมากๆค่ะ อนุโมทนา สาธุๆๆค่ะ
ตอบลบชัดเจน สาธุค่ะ
ตอบลบสุดยอดมากๆค่ะ อนุโมทนา สาธุๆๆค่ะ
ตอบลบความศรัทธาและยิ่งใหญ่ของชาวพุทธทั้งในอดีตและปัจจุบัน
ตอบลบคนที่เห็นโลกกว้างจะเข้าใจได้ง่าย คนที่ไม่ยอมเข้าใจอะไรเลยเรื่องรูปทรงเจดีย์นี่วิสัยทัศน์แคบมาก
ตอบลบได้ความรู้ ได้บุญมากครับ สาธุ
ตอบลบขอชื่นชม...นำสิ่งดีมาบอกให้โลกรู้...คนไทยจะได้ใจใสใจสว่างกันมากๆ
ตอบลบชัดเจนค่ะ เข้าใจได้ง่ายๆค่ะ
ตอบลบขอชื่นชม...นำสิ่งดีมาบอกให้โลกรู้...คนไทยจะได้ใจใสใจสว่างกันมากๆ
ตอบลบอนุโมทนาบุญนะคะ ดีจัง
ตอบลบยุคสมัคยเปลี่ยนไป แต่แรงบันดาลใจในการก่อสร้างเหมือนกัน คือบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ตอบลบเป็นข้อมูลที่ดีมากๆใครที่ยังไม่เคยรู้เรื่องเจดีย์ต้องศึกษาค่ะ
ตอบลบสาธุค่ะ..เป็นข้อมูลที่ให้ความกระจ่างชัดเจนค่ะ
ตอบลบเป็นข้อมูลที่ดีมากๆใครที่ยังไม่เคยรู้เรื่องเจดีย์ต้องศึกษาค่ะ
ตอบลบเขียนได้ดีและชัดเจนมากๆค่ะ
ตอบลบข้อมูลชัดเจนดีมากครับ
ตอบลบข้อมูลชัดเจนดีมากครับ
ตอบลบเยี่ยมค่ะ
ตอบลบเจดีย์เป็นสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะมีรูปทรงใดพอเห็นก็ต้องก้มกราบ นี่เป็นเรื่องปกติธรรมดามากๆ
ตอบลบบทความดีมากค่ะ พระมหาธรรมกายเจดีย์ก็สร้างอย่างถูกต้องตามต้นแบบเจดีย์ สาธุค่ะ
ตอบลบบทความดีมากค่ะ พระมหาธรรมกายเจดีย์ก็สร้างอย่างถูกต้องตามต้นแบบเจดีย์ สาธุค่ะ
ตอบลบใครได้อ่านก็จะได้รู้ความจริงค่ะ สาธุๆๆค่ะ
ตอบลบข้อมูลดีมาก
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบสาธุครับ.. ที่ทำให้ความจริงปรากฎในสายตาโลก
ตอบลบสาธุ เล่าที่มาของเจดีย์แบบนี้ก็ได้ความรู้ไว้ตอบลูกหลาน
ตอบลบได้ความรู้มากขึ้นเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
ตอบลบเรียงลำดับได้ดี อธิบายได้ชัดเจนมากครับสาธุ
ตอบลบสาธุเจ้าค่ะ
ตอบลบได้ความรู้มากขึ้นเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
ตอบลบสมัยนี้ไม่ได้ศึกษากัน หลายคนอาจเข้่ใจผิดว่าเจดีย์มีแบบไทย แบบสูงๆอย่างเดียว จริงๆไม่ใช่ Blog นี้ให้ความรู้กระจ่างดี
ตอบลบอนุโมทนาบุญมากๆ ค่ะ ชัดเจน ค่ะ
ตอบลบsaif1356.blogspot.com ดูซิเจดีย์มีแบบอย่าง
ตอบลบอนุโมทนาสาธุ
ตอบลบความจริงที่ทุกคนควรศึกษาให้รู้แจ้งค่ะ
ตอบลบเป็นข้อมูลที่ชัดเจนมากค่ะ
ตอบลบอนุโมทนาสาธุ
ตอบลบอนุโมทนาบุญชัดเจนค่ะ
ตอบลบสมัยนี้ไม่ได้ศึกษากัน หลายคนอาจเข้่ใจผิดว่าเจดีย์มีแบบไทย แบบสูงๆอย่างเดียว จริงๆไม่ใช่ Blog นี้ให้ความรู้กระจ่างดี
ตอบลบThank you very much for this useful information about the different shapes of Stupas. It should be shared widely to enlighten those who are so intent on making injurious comments about the Great Dhammakaya Cetiya so that they will stop incurring more and more terrible retribution for their lack of verbal restraint.
ตอบลบดีงามครับ. สาธุๆ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบไม่ว่าจะสร้างแบบไหน แต่ถ้าสร้างด้วยความศรัทธาที่มีต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สร้างเพื่อจะเคารพกราบไหว้บูชา แบบไหนก็คงไม่ผิด จะผิดก็เพราะคนชอบจับผิด
ตอบลบอนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
ตอบลบสาธุ เป็นเรื่องที่มีประโยชน์มากค่ะ คนไทยจะได้มีความรู้เรื่องเจดีย์มีหลายรูปแบบ จะได้ไม่หลงผิดไป
ตอบลบได้ความรู้ดีมากเลย
ตอบลบเจดีย์รูปทรงนี้ มีมาแต่สมัยโราณกาลแล้ว จึงไม่แปลกที่วัดพระธรรมกายจะสร้างเจดีย์ทรงนี้บ้างในยุคสมัยนี้
ตอบลบสาธุเจ้าค่ะ
ตอบลบอนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
ตอบลบพระมหาธรรมกายเจดีย์เป็นเจดีย์ที่มีรูปทรงเดียวกับศานย์จิเจดีย์ท่านใดที่ยังไม่เข้าใจและเรียกธรรมกายเจดีย์ไปต่างๆนานาท่านต้องอ่านบทความนี้
ตอบลบพระมหาธรรมกายเจดีย์เป็นเจดีย์ที่มีรูปทรงเดียวกับศานย์จิเจดีย์ท่านใดที่ยังไม่เข้าใจและเรียกธรรมกายเจดีย์ไปต่างๆนานาท่านต้องอ่านบทความนี้
ตอบลบได้ความรู้เยอะเลย เห็นใจคนที่ไม่เคยไปศึกษาจากเอกสารและคนที่ไม่เคยไปอินเดีย สื่อว่าอย่างไรก็เชื่ออย่างนั้น เราเคยไปอินเดียนะ และกราบพระเจดีย์มาแล้ว กราบพระพุทธรูปแบบมีเกศดอกบัวตูมมาแล้ว การก่อสร้างมันขึ้นอยู่กับความนิยมของแต่ละประเทศเท่านั้น จริงแล้วมีผู้รู้ภายในบอก เราเชื่อว่าคนโบราณน่าจะนิ่ง กิเลสจะน้อยกว่าเรา เห็นอะไรในทางธรรมมากกว่าเรา
ตอบลบสาธุค่ะ เป็นประโยชน์ มากค่ะ..
ตอบลบขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
ตอบลบขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
ตอบลบมหาธรรมกายเจดีย์ เป็นเจดีย์แห่งพระรัตนตรัย เป็นศูนย์รวมใจของชาวพุทธที่รักพระพระพุทธศาสนา
ตอบลบสาธุ จะได้รู้ความจริงกันสักที ว่าเจดีย์มีหลายแบบ จะได้เลิกจับผิดและทำบาปกัน
ตอบลบข้อมูลดีมากๆเลยครับ
ตอบลบใช่เลยครับ เป็นข้อมูลที่เข้าใจง่ายมาเลยครับ
ตอบลบเยี่ยม ครับผม
ตอบลบสาธุครับ
ตอบลบsaif1356.blogspot.com ทรงเจดีย์อินเดีย
ตอบลบทุกเจดีย์ล้วนมาจากแรงศรัทธา ดีใจที่ได้มีส่วนในการสร้างเจดีย์และได้กราบเจดีย์ในทุกๆ วันค่ะ :)
ตอบลบเป็นความรู้จริงๆเลยค่ะ และที่สำคัญถูกต้องด้วยค่ะ
ตอบลบกราบอนุโมทนาบุญต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อและผู้มีส่วนร่วมบุญปัจจัยสร้างพระมหาธรรมกายเจดีย์จนสำเร็จมา ณ โอกาสนี้ค่ะ สาธุ
ตอบลบรูปทรงไม่ใช่ข้อจำกัดที่คนเราต้องใส่ใจด้วยซำ้ หากว่าสร้างด้วยความเลื่อมใสและต้องการสักการะบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หากรูปทรงไม่ใช่การลบหลู่ในพระพุทธศาสนา และมีคนกราบไหว้และเกิดความเลื่อมใสจนเกิดความคิดที่จะทำความดี จิตคิดสิ่งที่เป็นกุศล
ตอบลบสาธุ ความรู้ใหม่ มีเจดีย์แบบนี้มานานแล้ว
ตอบลบรูปทรงไม่ใช่ข้อจำกัดที่คนเราต้องใส่ใจด้วยซำ้ หากว่าสร้างด้วยความเลื่อมใสและต้องการสักการะบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หากรูปทรงไม่ใช่การลบหลู่ในพระพุทธศาสนา และมีคนกราบไหว้และเกิดความเลื่อมใสจนเกิดความคิดที่จะทำความดี จิตคิดสิ่งที่เป็นกุศล
ตอบลบได้ความรู้ดีมากเลย ขออนุโมทนาด้วยนะ สาธุ
ตอบลบสาธุ จะได้รู้ความจริงกันสักที ว่าเจดีย์มีหลายแบบ จะได้เลิกจับผิดและทำบาปกัน
ตอบลบแจ่มชัดเลยค่ะ
ตอบลบเจดีย์ทุกที่เป็นสัญลักษณ์ของความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ขออนุโมทนาผู้ที่ให้ความรู้เรื่องรูปทรงเจดีย์ค่ะ
ตอบลบข้อมูลนี้ดีมากๆเลยค่ะ เพราะเหมือนได้ย้อนยุคไปยังเมื่อพระพุทธกาลเลยค่ะ
ตอบลบสาธุครับ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบได้ความรู้ใหม่มากๆเลยค่ะ และชัดเจนถูกต้อง
ตอบลบขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
สาธุได้ความรู้เยอะเลยครับ
ตอบลบสาธุ สาธุ สาธุค่ะ
ตอบลบสาธุ สาธุ สาธุค่ะ
ตอบลบเข้าใจเรืองเจดีย์มากขึ้นค่ะ สาธุค่ะ
ตอบลบได้รับความรู้เยอะมากเลยครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคับ
ตอบลบนี้คือเจดีย์ เพื่อรวมชาวพุทธโดยเเท้
ตอบลบเจดีย์ทุกรูปแบบล้วนสร้างขึ้นจากพลังศรัทธา ยุคเรามีบุญมากแล้วที่ได้ทั้งสร้างทั้งบูชา
ตอบลบเจดีย์ทุกรูปแบบล้วนสร้างขึ้นจากพลังศรัทธา ยุคเรามีบุญมากแล้วที่ได้ทั้งสร้างทั้งบูชา
ตอบลบได้ความรู้เยอะเลย ข้อมูลชัดเจนดีมาก สาธุค่ะ
ตอบลบสาธุ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ
ตอบลบเพิ่งทราบเจดีย์ ยุคแรกๆ เป็นทรงกลมคว่ำ พระปฐมเจดีย์ก็เหมือนกัน
ตอบลบว้าว มีข้อมูลครบถ้วนมากเลย แจ่มแจ้งจริงหนอ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบสาธุ อนุโมทนาบุญครับ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบมหาธรรมกายเจดีย์ คือเจดีย์แห่งพระรัตนตรัยที่ควรแก่การเคารพ สักการะ กราบทีพระ 1 ล้านองค์ กราบ 3 ที 3 ล้านพระองค์ ... ปลื้ม ปีติมาก
ตอบลบมหาธรรมกายเจดีมีรูปทรงไม่แตกต่างจากเจดีย์ในสมัยพุทธกาลเลย
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบอนุโมทนาบุญค่ะ
ตอบลบได้ความรู้เพิ่มขึ้นเลย สาธุๆกับเจ้าของบทความด้วยค่ะ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบขอบคุณครับที่เอาข้อมูลดีๆมาแชร์ให้อ่าน
ตอบลบสาธุเจ้าค่ะ
ตอบลบสาธุเจ้าค่ะ
ตอบลบอนุโมทนาบุญกับผู้สร้างมหาธรรมกายเจดีย์ด้วยค่ะ
ตอบลบพระมหาธรรมกายเจดีย์มีรูปทรงสัณฐาน คล้ายสาญจีเจดีย์ในยุคแรกๆๆของพระพุทธศาสนานะค่ะ
ตอบลบขอบคุณนะค่ะสำหรับความรู้เรื่องเจดีย์ค่ะ
สถูปหรือเจดีย์ เป็นสถานที่ถูกสร้างขึ้นดว้ยความเคารพศรัทธา กราบไหว้บูชาเจดีย์ดีกว่ากราบต้นไม้หรือสัตว์แปลกปลาด
ตอบลบเป็นเจดีย์ที่งดงามทั้งหมดเลยค่ะ
ตอบลบสุดยอดมหัศจรรย์มากๆค่ะ ที่สามารถสร้างเจดีย์ทรงนี้ขึ้นได้ในปัจจุบันและมีอายุยืนยาวอยู่ได้เป็นพันปี ใครได้สร้างก็ได้จารึกชื่อไว้ที่ฐานองค์พระด้วย เหมือนประเพณีของกษัตริย์สมัยโบราณที่นิยมสร้างพระสลักชื่อใต้ฐานแล้วประดิษฐานไว้เป็นเจดีย์ให้ลูกหลานได้กราบไหว้ ผู้สร้างก็ได้บุญต่อเนื่องตลอดพันปี แม้ตายไปแล้วก็ได้บุญตลอดค่ะ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบความจริง
ตอบลบดินปั้นเป็นพระยังมีคนกราบไหว้เลย เจดีย์บางองค์มีพระเป็นล้าน ไม่กราบแถมเรียกจานบิน เวรกรรมจริงๆ
ตอบลบชัดเจนแจ่มแจ้งดีครับ ควรแชร์ให้ทุกคนทราบไม่เช่นนั้นจะถูกหรอกกันไปตลอด
ตอบลบเป็นเจดีย์ที่งดงามทั้งหมดเลยค่ะ
ตอบลบสาธุครับ ได้ความรู้มากขึ้นครับ
ตอบลบสาธุ
ตอบลบดีมากเลยค่ะ อนุโมทนาบุญนะคะ
ตอบลบสาธุๆๆ ค่ะ พระเจดีย์งดงามาๆค่ะ
ตอบลบดีมากเลยค่ะ อนุโมทนาบุญนะคะ
ตอบลบขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ไปกราบไหว้มาหลายเจดีย์แล้ว รู้สึกได้บุญได้ระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัยและความคงอยู่ของพระพุทธศานา
ตอบลบสาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
ตอบลบสาธุๆๆ ค่ะ พระเจดีย์งดงามาๆค่ะ
ตอบลบสาธุค่ะ ชัดเจนค่ะ
ตอบลบข้อมูลแน่นมากครับ :)
ตอบลบสาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
ตอบลบความจริงที่คู่กับความดีงาม ชัดเจนแจ่มแจ้ง ทุกเจดีย์ไม่ว่าจะรูปทรงใดล้วนงดงามและมีค่ามีคุณควรกราบไหว้ เปรียบเหมือนตัวแทนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ไว้ตาบระลึกถึงคุณ ของพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ซึ่งมีพระคุณจะนับจะประมาณมิได้ เราจะได้เดินตามรอยท่านสู่หนทางพ้นทุกข์ได้
ตอบลบVery Good Story & Clear to Understand
ตอบลบเป็นข้อมูลที่ดีมากๆ
ตอบลบเป็นความรู้ที่ดีมากค่ะ
ตอบลบคนที่ยังไม่เข้าใจ โปรดเข้าใจซะ คงจะเลิกเข้าใจผิดๆกันแล้วนะคะ
ตอบลบสาธุ
ตอบลบสุดยอดคับ แม้กาลเวลาเปลี่ยนไปแนวความคิดแต่ละสมัยอาจเปลี่ยนไปบ้างแต่รวมๆแล้วก็จะมีรูปทรงที่ไม่แตกต่างจากเดิมทีืเคยมี และวัตถุประสงค์ของการสร้างพระเจดีย์ก้เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า คนบางคนที่ดีแต่ว่าตามๆเขาถ้าเอาเวบามาใช้ศึกษาคงเป็นบุญติดตัวไปมิใช่น้อยนะคับ
ตอบลบสาธุ
ตอบลบได้ความรู้ที่แท้จริงเยอะขึ้นเลย ไม่เห็นเหมือนในข่าวหรือที่คนเขาพูดให้ฟังเลย
ตอบลบรู้อย่างนี้แล้ว ทำให้อยากให้มีเจดีย์เต็มบ้านเต็มเมืองจังเลยค่ะ ดีมากๆ เลยค่ะสำหรับความรู้นี้ค่ะ
ตอบลบVery Good Story & Clear to Understand
ตอบลบเพิ่งทราบนะค่ะว่าพระปฐมเจดีย์ก้อมีรูปทรงสัณฐานเป็นทรงกลมเหมือนกัน และเป็นเจดีย์ยุคต้นๆๆพุทธศาสนา ตั้งแต่พ.ศ. 300 ซึ่งสร้างในสมัยยุคเดียวกับพระเจ้าอโศกมหาราช
ตอบลบงั้นก้อแสดงว่าพระเจดย์รูปทรงดั้งเดิม เป็นรูปทรงเช่นเดียวกับมหาธรรมกายเจดีย์นี่เอง
ขอบคุณกับความรู้ที่เต็มเปี่ยมด้วยสาระค่ะ
เข้าใจชัดเจน ขอบคุณข้อมูลที่มีประโยชน์ต่ออนุชนรุ่นหลัง อนุโมทนาบุญกับผู้เขียนด้วยค่ะ
ตอบลบขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ครับ
ตอบลบสาธุครับ อนุโมทนาบุญกับบทความดีๆครับ
ตอบลบสาธุๆๆ เขียนได้เยี่ยมมากค่ะ ขอให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ http://xn--42cgc3ea8bp3ae4hf1as4z.blogspot.jp/2016/02/22.html
ตอบลบขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ครับ
ตอบลบเข้าใจชัดเจน ขอบคุณข้อมูลที่มีประโยชน์ต่ออนุชนรุ่นหลัง อนุโมทนาบุญกับผู้เขียนด้วยค่ะ
ตอบลบข้อมูลชัดเจนดีครับ
ตอบลบสาธุครับ อนุโมทนาบุญกับบทความดีๆครับ
ตอบลบถ้าเป็นคนศาสนาพุทธ จะต้องทำความเข้าใจค่ะ เพราะศาสนาพุทะธ เป็นศาสนาแห่งปัญญา และเหตุผล ถ้านอกศาสนา แล้วมาต่อว่า เจดีย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถือเป็นอลัชชี ค่ะ......เจดีย์ เป็นเจดีย์แห่งพระรัตนตรัย ที่เคารพกราบไหว้ เป็นตัวแทนของ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทะเจ้าค่ะ....คนศานาพุทธต้องใช้ปัญญา และเหตุผลในการไตร่ตอง ดั้งนั้น กล่าวจาบจ้วง แบบผิดๆๆ ถือว่า ไม่มีปัญญา และเหตุผิด ใช้หลักคิดของตนเป็นใหญ่ ควบคุมจิต ตนไม่ได้ .....เจดีย์ แห่งพระรัตนตรัยค่ะ
ตอบลบเห็นด้วยกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ สาธุ
ตอบลบเป็นข้อมูลทางวิชาการที่น่าเชื่อถือได้ ขอยกย่องชมเชยคะ
ตอบลบสาธุค่า เปนความรู้ที่ดีมากค่ะะ
ตอบลบสาธุค่ะ การสร้างเจดีย์จะรูปทรงไหนๆ
ตอบลบก็เกิดบุญเกิดกุศล ยิ่งพระธรรมกายเจดีย์
มีองค์พระล้านองค์ ยิ่งมีคุณค่ามีบุญมากมายค่ะ
สาธุ ๆ ค่ะ
ตอบลบเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์จำลองมาจากแดนไกล ที่ไม่มีผู้ใดไปถึง
ตอบลบได้กราบไหว้ถือว่าคุ้มของการได้เกิดมาเป็นคนในยุคนี้
เป็นข้อมูลทางวิชาการที่น่าเชื่อถือได้ ขอยกย่องชมเชยคะ
ตอบลบขอบคุณที่ช่วยเปิดโลกทรรศน์ครับ
ตอบลบข้อมูลชัดเจนดีมากค่ะ
ตอบลบขอบคุณที่ช่วยเปิดโลกทรรศน์ครับ
ตอบลบเจดีย์เป็นสัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะมีรูปทรงใดพอเห็นก็ต้องก้มกราบ นี่เป็นเรื่องปกติธรรมดามากๆ
ตอบลบhttp://the-meditation-ways.blogspot.de/2016/03/the-dhammakaya-knowledge.html
เป็นบทความที่ดีมากเลยค่ะ
ตอบลบขอบคุณข้อมูลที่ดีๆ สำหรับไว้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมได้เห็นถึงแรงศรัทธาของผู้คนในแต่ละยุคแล้วน่าทึ่งมากๆค่ะ
ตอบลบสาธุๆๆ ขอบคุณมากๆๆที่ได้อ่านข้อมูลดีๆๆแบบนี้ มหาธรรมกายเจดีย์ มีรูปทรงเหมือนพระเจดีย์ในสมัยก่อนเลยคะ โชคดีจังที่เรายังได้ดูในรูปเก่าๆแบบนี้ คนสมัยก่อนคงรักนับถือพระพุทธศาสนากันมาอย่างเหนียวแน่น จนมาถึงปัจจุบัน ที่เราก็ต้องรักพระพุทธศาสนา อย่าให้ศาสนาพุทธหายไปจากประเทศไทยนะคะ
ตอบลบสาธุๆๆ อนุโมทนาบุญกับผู้เขียนที่เผยแพร่ข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อชาวพุทธและผู้ที่สนใจได้อย่างมากที่สุดค่ะ
ตอบลบข้อมูลชัดเจนดีมากค่ะ
ตอบลบอนุโมทนาบุญ ค่ะ
ตอบลบสาธุครับขอขอบคุณคำอธิบายสั้นๆที่ทำให้เข้าใจเรื่องเจดีย์ในประเทศไทยมากยิ่งขึ้นครับ
ตอบลบขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับผู้ที่เขียนบทความนี้คะ สาธุ
ตอบลบเนื้อหาดีมากๆ ครับ ขออนุโมทนากับเจ้าของบทความครับ
ตอบลบเป็นข้อมูลที่ดีมากจริงๆ คะ
ตอบลบชัดเจนเลยค่ะ
ตอบลบเป็นข้อมูลที่ดีมากจริงๆ คะ
ตอบลบสาธุๆๆ แหม่ พวกที่ว่ามหาธรรมกายเจดีย์ มันไม่ศึกษาอะไรเล้ยยย ตกนรกไม่รู้เรื่อง ขอบคุณสาระดีๆที่เรียบเรียงมานะคะ
ตอบลบลักษณ์ของสถูปเจดีย์ก็เปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย ตามวัฒนธรรมที่เข้ามามีอิทธิพล ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
ตอบลบเป็นข้อมูลที่ละเอียดดีมากค่ะกราบสาธุนะคะ
ตอบลบอนุโมทนาบุญนะคะ
ตอบลบเป็นข้อมูลความรู้เรื่อง รูปทรงของเจดีย์ ที่ดีมากๆ เลยครับ
ตอบลบสาธุ สาธุ สาธุค่ะ อนุโมทนาบุญกับผู้เขียนด้วยค่ะ
ตอบลบรูปทรงของเจดีย์ถูกถ่ายทอดจากสภาวะธรรมภายใน สื่อถึงคำสอนที่เป็นแก่นของพระพุทธศาสนา การทำความเข้าใจในรูปทรงของเจดีย์จึงต้องอาศัยความละเอียดลุ่มลึกของใจที่เข้าถีงสภาวะธรรมภายใน การพิจารณาด้วยจินตมยปัญญาจีงไม่สามารถพบข้อแท้จริงได้ โต้เถียงกันอย่างไรก็ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ เปรียบเสมือนคนป่วยที่พยายามรักษาคนป่วยย่อมไม่มีโอกาสหายจากโรค ย่อมเสียเวลาเปล่า
ตอบลบมหาธรรมกายเจดีย์ก็ไม่ได้แปลกกว่าเจดีย์อื่นๆเลยค่ะ
ตอบลบมหาธรรมกายเจดีย์ก็ไม่ได้แปลกกว่าเจดีย์อื่นๆเลยค่ะ
ตอบลบสาธุๆ ครับ
ตอบลบสาธุ...เป็นบุญตา
ตอบลบที่ได้รู้ได้เห็นว่าเจดีย์แต่ละยุคสมัยเป็นอย่างไร
ล้วนแต่ศักดิ์สิทธิ์ น่าเคารพกราบไหว้ บูชา
ต่อไปจะได้เป็นข้อมูลให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรื่องราวความเป็นจริงของเจดีย์
ขออนุโมทนากับข้อมูลดีๆแบบนี้
เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มาก สาธุครับ
ตอบลบได้ความรู้เยอะเลยครับ
ตอบลบสาธุ...เป็นบุญตา
ตอบลบที่ได้รู้ได้เห็นว่าเจดีย์แต่ละยุคสมัยเป็นอย่างไร
ล้วนแต่ศักดิ์สิทธิ์ น่าเคารพกราบไหว้ บูชา
ต่อไปจะได้เป็นข้อมูลให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรื่องราวความเป็นจริงของเจดีย์
ขออนุโมทนากับข้อมูลดีๆแบบนี้