ประวัติการสร้างเจดีย์ในพระพุทธศาสนา ตอนที่ 3 เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ๘ แห่ง
ประวัติการสร้างเจดีย์ในพระพุทธศาสนา ตอนที่ 3
เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ๘ แห่ง
พระสถูปเจดีย์ของพระโคดมพุทธเจ้าของเราทั้งหลาย
กษัตริย์ในแคว้นต่าง ๆ ได้ทราบข่าวการปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ต่างส่งทูตไปที่กรุงกุสินาราแคว้นมัลละ เพื่อขอส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า เมื่อถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระเสร็จแล้ว ทูตจากเมืองต่าง ๆ ยินยอมพร้อมใจกันให้โทณพราหมณ์ได้ทำหน้าที่ประสานสัมพันธ์ แบ่งพระบรมสารีริกธาตุ โทณพราหมณ์กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า
ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ขอจงฟังคำข้าพเจ้าแต่เพียงผู้เดียว พระพุทธเจ้าของเราทั้งหลาย
ตรัสสรรเสริญขันความ(ความอดทน) การที่เราจะแตกสามัคคีกันเพราะส่วนแบ่ง
แห่งพระบรมสารีริกธาตุนี้ไม่ดีเลย ขอให้เราทั้งหลายยินยอมพร้อมกันแบ่งพระบรมสารีริกธาตุออกเป็น ๘ ส่วน ขอพระสถูปจงแพร่หลายในทิศทั้งหลาย
คนที่เลื่อมใสพระพุทธเจ้ามีอยู่เป็นจำนวนมาก
ต่อจากนั้นก็ได้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุกัน ทูตจากเมืองต่าง ๆ ได้พระบรมสารีริกธาตุคนละ ๒ ทะนาน นำไปยังเมืองของตน ทำการเฉลิมฉลองบูชาสักการะ เปิดโอกาสให้พุทธศาสานิกชนได้กราบไหว้บูชากัน ต่อจากนั้นได้สร้างสถูป (เจดีย์) เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้เป็นที่บูชาสักการะในกาลสืบไป ดังนี้
(๑) พระเจ้าอชาตศัตรูแห่งแคว้นมคธ ได้กระทำสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในกรุงราชคฤห์
สถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในกรุงราชคฤห์ |
สถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในกรุงเวสาลี |
สถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในกรุงกบิลพัสดุ์ |
สถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในเมืองอัลลกัปปะ |
สถูป ในเมืองรามคาม |
(๗) กษัตริย์มัลละแห่งแคว้นมัลละฝ่ายเหนือ ได้กระทำสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้
ในเมืองกุสินารา
สถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในเมืองกุสินารา
|
จุนทะสถูป สถูปโบราณที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง สถานที่เสวยพระกระยาหารมื้อสุดท้ายของพระพุทธเจ้า |
สถานที่สันนิษฐานว่าเป็นที่โทณพราหมณ์แจกพระบรมสารีริกธาตุ แก่เจ้าผู้ครองนครทั้ง 8 ในกุสินารานคร |
จากนั้น พระเถระก็ได้ดำเนินการรวบรวมพระบรมสารีริกธาตุจากราชตระกูลทั้ง ๗ มาประดิษฐานไว้ในทิศตะวันออก และทิศใต้ของกรุงราชคฤห์ โดยพระเถระเล็งเห็นว่า ในอนาคต คนทั้งหลายจักเก็บพระบรมธาตุเหล่านี้ไว้ในมหาเจดีย์ในมหาวิหารลังกา ๒ พระราชารับสั่งให้สร้างสถูปไว้ ๘ องค์ ใส่พระบรมสารีริกธาตุไว้ผอบจันทน์เหลือง ๘ ใบ พระมหากัสสปเถระอธิษฐานว่า “พวงมาลัยอย่าเหี่ยว กลิ่นหอมอย่าหายไป ประทีปอย่าไหม้” แล้วให้จารึกไว้ที่แผ่นทองว่า “แม้ในอนาคต ครั้งพระกุมารพระนามว่าอโศกจักเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระเจ้าอโศกมหาราช ท้าวเธอจักทรงกระทำพระบรมสารีริกธาตุเหล่านี้ให้แพร่หลายไป ดังนี้”
ประเภทของเจดีย์
สถูปเจดีย์นั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประเภทหนึ่งในหลายประเภท ที่คนอินเดียโบราณนิยมสร้าง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่ในเชื้อชาติเดียวกันกับพระพุทธเจ้า (ศากยะ) ซึ่งพบว่า เมื่อญาติเสียชีวิตจะนิยมเผาศพและเก็บกระดูกไว้บูชา โดยสร้างสถานที่เก็บเอาไว้ (หากมีขนาดใหญ่โตก็เรียกว่าสถูป) เพื่อให้ผู้คนได้สักการบูชาระลึกถึงผู้ตาย ซึ่งเป็นรูปแบบของสิ่งก่อสร้างที่สัมพันธ์กับการฝังศพ โดยเฉพาะการฝังอัฐิธาตุซึ่งได้มีการใช้มาแล้วก่อนสมัยพุทธกาล
สถูปกับเจดีย์มีความหมายไม่เหมือนกันในที่นี้ กล่าวคือ สถูปจะมีความหมายที่ใช้เฉพาะสิ่งก่อสร้างในทางสถาปัตยกรรม
ส่วนเจดีย์จะกินความหมายกว้างกว่า มีนัยกว้างขวางครอบคลุมสิ่งที่ควรเคารพ นับถือ บูชาหลายอย่างดังที่กล่าวแล้ว คือหมายถึงสิ่งก่อสร้างในทางสถาปัตยกรรม และมีความหมายรวมถึงวัตถุสิ่งของต่างๆ ที่ควรแก่การสักการบูชา เช่น พระพุทธรูป วิหาร พระไตรปิฎก ฯลฯ
โดยสรุปมี ๔ ประเภท
สถูปกับเจดีย์มีความหมายไม่เหมือนกันในที่นี้ กล่าวคือ สถูปจะมีความหมายที่ใช้เฉพาะสิ่งก่อสร้างในทางสถาปัตยกรรม
ส่วนเจดีย์จะกินความหมายกว้างกว่า มีนัยกว้างขวางครอบคลุมสิ่งที่ควรเคารพ นับถือ บูชาหลายอย่างดังที่กล่าวแล้ว คือหมายถึงสิ่งก่อสร้างในทางสถาปัตยกรรม และมีความหมายรวมถึงวัตถุสิ่งของต่างๆ ที่ควรแก่การสักการบูชา เช่น พระพุทธรูป วิหาร พระไตรปิฎก ฯลฯ
โดยสรุปมี ๔ ประเภท
๑. ธาตุเจดีย์ สิ่งก่อสร้างที่บรรจุพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้า พระเจ้าจักรพรรดิ
๒. บริโภคเจดีย์ สังเวชนียสถาน อันเป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้า เช่น สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และปรินิพพาน หรือที่เรียกว่าสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล
๓. ธรรมเจดีย์ ข้อความที่ว่าด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นคำ ประโยคทั้งที่เป็นร้อยแก้วและร้อยกรอง คัมภีร์พระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา อนุฎีกา
๔. อุทเทสิกเจดีย์ สิ่งของที่สร้างขึ้นอุทิศพระพุทธเจ้า เป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระพุทธเจ้า ไม่กำหนดว่าจะเป็นอะไร เช่น พระแทนวัชรอาสน์ที่เจดีย์ศรีมหาโพธิพุทธคยา พระพุทธรูป
โดยนัยนี้จะเห็นว่า “เจดีย์” มีความหมายกว้างครอบคลุมสิ่งที่ควรบูชาสักการะทุกอย่าง ไม่ได้หมายถึงสถูปอย่างเดียว เจดีย์ที่มีความหมายเดียวกันกับ “สถูป” คือ ธาตุเจดีย์ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระบรมธาตุ หรืออัฏฐิธาตุ
อ้างอิงข้อมูลจาก : พระมหาสมจินต์ สมมาปญโญ (2547) http://goo.gl/KbOhUP; https://goo.gl/NNfVw3;
นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 166 ตุลาคม 2557
http://www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9570000113440
อ้างอิงข้อมูลจาก : พระมหาสมจินต์ สมมาปญโญ (2547) http://goo.gl/KbOhUP; https://goo.gl/NNfVw3;
นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 166 ตุลาคม 2557
http://www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9570000113440
สาธุ
ตอบลบสาธัครับ ได้ความรู้เรื่องเจดีย์เป็นอย่างดีเลยครับ
ตอบลบสาธุค่ะ เป็นประโยชน์มสกๆเลยค่ะทำให้เราได้รู้เกี่ยวกับประวัติของเจดีย์ที่สวยงามมากๆของเเต่ละองค์
ตอบลบสาธุค่ะ เป็นประโยชน์มสกๆเลยค่ะทำให้เราได้รู้เกี่ยวกับประวัติของเจดีย์ที่สวยงามมากๆของเเต่ละองค์
ตอบลบชัดเจนมาก
ตอบลบขอบคุณข้อมูลดีๆที่มาให้ความกระจ่าง และเพิ่มพูนความรู้รอบตัว
สาธุๆ ครับ
ตอบลบสิ่งที่มีเหมือนกันตั้งแต่สมัยโบราณมาจนถึงปัจจุบันคือ ความเคารพรักในพระพุทธศาสนา จึงมีการสร้างสิ่งที่เป็นสิ่งแทนต่อการเคารพบูชา แม้จะมีแตกต่างกันบ้างไปตามยุคสมัย นี่เป็นสิ่งที่คนทั้งหลายควรศึกษาก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์กันโดยความไม่รู้
ตอบลบเป็นข้อมูลที่ดีเหลือเกิน ทึ่จะทำให้คนรุ่นหลังได้มาศึกษา จะได้ไม่หลงเชื่อแบบผิดๆ อีก
ตอบลบสาธุครับ
ตอบลบที่บอกว่ามหาธรรมกายเจดีย์เป็นจานบินก็คิดใหม่นะคะวัดใหญ่ขนาดนี้คงไม่คิดแค่ว่าทำออกมาให้แปลกตานะคะแต่มีเหตุผลทางพุทธศาสตร์ยืนยันชัดเจนว่าไม่พี่ไม่ได้มาเล่นๆจ้า
ตอบลบสาธุๆๆค่ะ
ตอบลบสาธุๆๆค่ะ
ตอบลบสาธุครับ กระจ่างครับ
ตอบลบสาธุค่ะ
ตอบลบบทความให้ความกระจ่างดีครับ ให้เขียนบทความที่ดีๆแบบนี้ต่อไปครับ!
ตอบลบมีสาระความรู้เกี่ยวกับเจดีย์ อนุโมทนาบุญครับ
ตอบลบสาธุค่า
ตอบลบข้อมูลดีมากครับ
ตอบลบข้อมูลดีมากครับ
ตอบลบขออนุโมทนา ค่ะ เป็นประโยชน์ที่ดีมาก สำหรับปะชาชนสาระทีควรรู้และจำเป็นตอ้งรู้เพื่อจะได้ไม่เข้าใจอะไรผิดกันอีกต่อไป
ตอบลบสาธุครับ
ตอบลบ